
ตลาดหุ้นอเมริกาเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจอเมริกา เป็นหนทางสำหรับ บริษัท สำหรับการระดมทุนแล้วก็สำหรับนักลงทุนสำหรับในการลงทุนเงินของพวกเขา การแลกเปลี่ยนเงินทุนนี้ช่วยทำให้ธุรกิจเติบโต สร้างงาน แล้วก็ขับการเติบโตด้านเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นอนุญาตให้นักลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทต่างๆซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนเมื่อเวลาผ่านไปถ้าบริษัทเหล่านั้นประสบผลสำเร็จ นักลงทุนยังสามารถขายหุ้นเมื่อปรารถนาได้กำไรหรือลดความเสี่ยง
ตลาดหลักทรัพย์เป็นปัจจัยหลักในความสำเร็จของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่แมื่อเริ่มต้นในปี 1792 ด้วยการลงนามในกติกา Buttonwood โดยผู้แทนขายหลักทรัพย์ในนิวยอร์ก 24 ราย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลาดค้าหุ้นสหรัฐได้ปรับปรุงเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดรวมทั้งมีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก ในปี 2020 มีบริษัทที่ค้าขายสาธารณะมากยิ่งกว่า 3,700 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดค้าหุ้น NYSE และก็ NASDAQ รวมกับค่าหลักทรัพย์ตามราคาท้องตลาดรวม (ราคาของหุ้นทั้งปวง) แทบ 38 ล้านล้านดอลลาร์
ตลาดค้าหุ้นขับเคลื่อนด้วยวัฏจักรเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน เมื่อสภาพเศรษฐกิจดี บริษัทชอบไปได้ดีแล้วก็ราคาหุ้นจะสูงมากขึ้นเหตุเพราะนักลงทุนมีความแน่ใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับจังหวะในอนาคต ในทางกลับกัน เมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่ดี นักลงทุนอาจระมัดระวังเยอะขึ้นแล้วก็เทขายหุ้นทำให้ราคาลดน้อยลง ในกรณีที่ร้ายแรง อย่างเช่น ในตอนเศรษฐกิจถดถอยหรือวิกฤตการณ์ด้านการเงิน สิ่งนี้บางทีอาจส่งผลให้เกิดตลาดหมีซึ่งราคาจะต่ำลงเป็นอย่างมากในช่วงช่วงเวลาหนึ่ง
นักลงทุนมีหลายโอกาสสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ พวกเขาสามารถซื้อหุ้นแต่ละตัวโดยตรงจากโบรกเกอร์หรือผ่านแพลตฟอร์มการค้าขายออนไลน์เช่น E-Trade หรือ Robinhood ซื้อกองทุนรวมที่ติดตามดรรชนีได้แก่ S&P 500 หรือซื้อกองทุน ETFs ETF คล้ายกับกองทุนรวม แต่ซื้อขายดังเช่นว่าหุ้น และก็ให้นักลงทุนได้รับความเสี่ยงที่นานัปการในจำพวกทรัพย์สินหรืออุตสาหกรรมที่ไม่เหมือนกันด้วยทุนที่ต่ำกว่าการซื้อหุ้นแต่ละตัว
นอกเหนือจากการให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงตลาดทุนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐยังเป็นที่ตั้งของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็มีผลกระทบเยอะที่สุดในโลก ดังเช่นว่า Apple, Microsoft, Amazon, JPMorgan Chase & Co., Alphabet Inc., Berkshire Hathaway Inc. , Facebook Inc. , Johnson & Johnson รวมทั้ง Walmart Inc. บริษัทเหล่านี้ประกอบขึ้นเป็นส่วนใหญ่ของดัชนี S&P 500 ซึ่งใช้กันอย่างมากมายเป็นมาตรฐานสำหรับเพื่อการวัดสมรรถนะโดยรวมของตลาดค้าหุ้นสหรัฐอเมริกา
ตลาดหุ้นสหรัฐมีบทบาทสำคัญสำหรับการขับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจรวมทั้งสร้างความร่ำรวยให้กับบุคคลที่เลือกลงทุน ด้วยการให้การเข้าถึงตลาดทุนที่ที่อื่นอาจไม่สามารถที่จะใช้ได้ ช่วยให้ธุรกิจขยายตัวแล้วก็สร้างงานตอนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนกระจายพอร์ตการลงทุนและอาจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น ยกตัวอย่างเช่น การสูญเสียเงินต้นด้วยเหตุว่าความปั่นป่วนของราคา กระบวนการทำความรู้ความเข้าใจกับการเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเมื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
หวยหุ้นดาวน์โจน